ขนาดโมเดล กว้าง x ยาว = 10 ซม. x 65 ซม
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม:
http://www.luckymodel.com/scale.aspx?item_no=TA%2078011
ประวัตเรือปรินซ์ออฟเวลว์
เรือปริ๊นซ์ออฟเวลล์ ( Prince of Wales) เป็นเรือประจัญบานรุ่นใหม่ของอังกฤษชั้นเดียวกับเรือคิงยอร์ทที่ 5 ( King George IV ) ติดตั้งปืนใหญ่ 14 นิ้ว มีระวางขับน้ำ 43,786 ตัน มีประวัติในการทำการรบกับเรือบิสมาร์กและปริ๊นซ์อูเก้นของเยอรมันในการรบที่ช่องแคบเดนมาร์ก ร่วมกับเรือประจัญบานฮูด ซึ่งในการรบครั้งนี้เรือฮูดได้ถูกจมไป ส่วนเรือปริ๊นซ์ออฟเวลล์ เองก็ได้รับความเสียหาย จากคมกระสุนจากเรือบิสมาร์กเช่นกัน ถึง 7 แหน่ง แต่สามารถรอดมาได้จากการใช้ม่านควันกำบัง นอกจากนี้ยังได้ฝากรอยแผลไว้ให้กับเรือบิสมาร์กเช่นเดียวกันถึง 3 แผล โดยเฉพาะถังเชื้อเพลิงทำให้เรือบิสมาร์กต้องถอนตัวออกจากการรบและล่าถอยไป แต่เธอก็ยังไม่ลดละความพยายามในการติดตามเรือบิสมาร์ค ร่วมกับเรือซัฟโฟลค ( Suffolk )เพื่อหาทางแก้แค้นให้กับเรือฮูด จนกระทั่งเชื้อเพลิงเหลือน้อยจึงต้องเลิกการติดตามและกลับไปซ่อมแซม ปล่อยให้เรือลำอื่นๆ ของอังกฤษไปรุมสกัมเรือบิสมาร์คต่อไป
ภารกิจต่อมาของเธอคือการพา นายกฯเชอร์ชิลของอังกฤษไปพบกับประธานาธิบดีรูสเววของสหรัฐฯเพื่อเจรจาขอความช่วยเหลือในการต่อสู้กับเยอรมัน หลังจากนั้นจึงทำหน้าที่คุ้มกันขบวนคอนวอยในทะเลเมดิเตอเรเนียน สามารถทำลายเครื่องบินอิตาลีได้หลายลำ
ต่อมาญี่ปุ่นแสดงท่าทีชัดเจนที่จะบุกสิงคโปร์ซึ่งขณะนั้นเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เธอจึงถูกส่งมาขัดขวางการยกพลขึ้นบกของกองเรือญี่ปุ่น ที่จะมาขึ้นฝั่งที่ตอนใต้ของไทย ร่วมกับเรือลาดตระเวนนักรีพัสซ์ ( Repulse) แต่ไม่สามารถค้นหากองเรือญีปุ่นได้จึงหันหัวเรือกลับสิงคโปร์ แต่เรือดำน้ำญี่ปุ่น I-65 ตรวจพบเธอเสียก่อน จึงแจ้งข่าวไปยังฐานบินที่อยู่ในไซ่ง่อน ของเวียดนาม ในเช้าวันที่ 10 ธ.ค.1941 ( พ.ศ.2484) เครื่องบินทิ้งระเบิดและตอร์ปิโดของญีปุ่นจำนวน 86 ลำจึงบินมาจากไซ่ง่อน พุ่งตรงมาที่กองเรืออังกฤษ และทำการโจมตีเรือพรินซ์ออฟเวลล์ จนกระทั่งจมลงสู่ก้นอ่าวไทย โดยญีปุ่นเสียเครื่องบินไปเพียง 3 ลำเท่านั้น เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวโลกว่า ยุคของเรือประจัญบานได้จบสิ้นลงแล้วในสงครามทางทะเลโดยมีเครื่องบินเข้ามาแทนที่
|