ร่องลายลึก สุดละเอียด ค่าหีบห่อและนำส่งพัสดุ 50 บาท หรือบริการพกง. 100 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติม:
http://www.hlj.com/product/HSGJT45 ไรเดน
กองทัพเรือจักรพรรดินาวีญี่ปุ่นได้ใช้เครื่องบินสกัดกั้นในการป้องกันสถานที่สำคัญเช่น ฐานทัพเรือของพวกเขา เครื่องบินไรเดน (แจ็ค) เป็นเครื่องบินสกัดกั้นแบบแรกของกองทัพเรือญี่ปุ่น ในเดือนพฤศจิกายน ปีพ.ศ.2482(ค.ศ.1939) อุตสาหกรรมผลิตเครื่องบินของมิตซูบิชิอุตสาหกรรมหนัก ได้รับคำร้องให้ทำการผลิตจากกองทัพเรือญี่ปุ่น จึงได้เริ่มทำการพัฒนาเครื่องบินไรเดนภายใต้ชื่อโครงการ เครื่องบินสกัดกัน 14-shi เครื่องบินที่ต้องการต้องมีความเร็วสูงกว่า 600 ก.ม./ช.ม. มีกำลังสูงที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพียงพอที่จะไต่สูงระดับความสูง 6,000 ม.ได้ในเวลา 5 นาที 30 วินาที เครื่องยนต์ที่มีความเหมาะสมในเวลานั้นมีเพียงแบบ คาไซ ไทพ์ 13 ขนาด 1,430 แรงม้า ซึ่งพัฒนาในตอนแรกสำหรับใช้ในเครื่องบินทิ้งระเบิดเท่านั้น แต่เครื่องยนต์ชนิดนี้มีความกว้างถึง 1.34 ม.ทำให้ต้องออกแบบให้มีลำตัวที่กว้างมากแต่เพื่อรักษาความเพรียวลมไว้จึงทำให้ต้องต่อแกนเพลาใบพัดออกมามากกว่าเครื่องบินทั่วไป ส่งผลในการบินครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2485(ค.ศ.1942) เกิดปัญหาที่ใบพัดสั่นและทัศนวิสัยที่ไม่ดี เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวจึงเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ คาไซ ไทพ์ 23 การสร้างเครื่องบินต้นแบบใหม่ได้บินขึ้นครั้งแรกในเดือนตุลาคม ปีเดียวกัน แต่ก็ยังปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นอยู่ โดยเฉพาะการสั่นของใบพัด ซึ่งได้ปรับปรุงให้ใช้งานได้จริงในไรเดน รุ่น ไทพ์ 11 แต่ก็ยังไม่ได้ทำจนกระทั่งเดือนธันวาคม ปีพ.ศ.2486(ค.ศ.1943) ในระหว่างนั้น ไรเดน รุ่น ไทพ์ 21 รุ่นติดอาวุธหนักก็เสร็จสมบูรณ์โดยติดตั้งปืนใหญ่อากาศ 20 ม.ม. 4 กระบอกส่งกระสุนด้วยสาย ไรเดนถูกใช้งานครั้งแรกในเดือนกันยายน ปีพ.ศ.2487(ค.ศ.1944) ที่เกาะบอร์เนียว หน่วยบินที่มีชื่อเสียงที่ใช้เครื่องไรเดนได้แก่ กองบินที่ 302 ที่มีฐานปฏิบัติการอยู่อัทสุกิได้ใช้ความเร็วและความสูงของไรเดนในการสอยเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดหนักแบบ B-29 ตกเป็นจำนวนมากเหนือเขตคันโตในญี่ปุ่น
|
|
