หน้า 3 จาก 3 วันนี้ ประวัติศาสตร์ของกองบินนาวี บันทึกลงไว้ว่า นายเรือตรี โชอิจิ ซูกีตะ ทำลายเครื่องบินข้าศึกตก 4 เครื่อง เสียหายอีก 4 เครื่อง และต่อจากวันนั้นเพียงไม่ถึงเดือน "พญาอินทรี" ก็ " ปีกหัก" นายเรือตรี โชอิจิ ซูกีตะ ก็พบจุดจบ เขาเสียชีวิต เพราะความทระนงของเขา ที่เขาถือนักว่า เขาจะไม่ยอมให้เครื่องบินมากดสนามบินของเขาได้ และไม่ยอมเสียศักด์ศรีให้เครื่องบินข้าศึกมาบินเหนือหัว วันนั้นซึ่งเป็นวันที่กองบินนาวีแห่งกองทัพเรือของมหาจักรพรรดิต้องเสียนักบินฝีมือดีไป คือวันที่ 17 เมษายน 2488 ซึ่งสงครามมหาเอเชียบูรพา และสงครามโลกครั้งที่ 2 จะปิดฉากลงอยู่แล้ว เหตุการณ์ในวันนั้น มันเป็นเหตุการณ์ที่รวดเร็วและป้องกันตัวไม่ทันทีเดียว เครื่องบินขับไล่เฮลล์แคทกับเครื่องบินโจมตีคอร์แซร์ ซึ่งมาจากเรือบรรทุกเครื่องบิน เข้าจู่โจมสนามบินมัตสุยาม่าอย่างรวดเร็ว ระเบิดลูกแรกระเบิดขึ้นในสนามนักบินหมู่หนึ่งวิ่งออกไปหมายว่าจะขึ้นเครื่องไปต่อสู้แต่โอกาสที่จะบินขึ้นนั้นไม่มี เพราะเครื่องบินของข้าศึกกดสนามบินอยู่แล้ว นักบินเหล่านั้นถูกยิงกราดแตกกระเจิงไปไม่สามารถวิ่งขึ้นเครื่องของตัวได้ แต่ อินทรีทรนง ซูกีตะ ไม่สนใจกับลูกระเบิดและกระสุนปืนกล เขากับลูกหมู่อีกสองคนวิ่งไปหาเครื่องบินประจำตัว ทั้งที่เฮลล์แคทโฉบลงมากระหน่ำด้วยปืนกลอากาศเป็นทางไล่หลัง นักบินกล้าตายทั้งสามคนมาติดๆ ความบ้าเลือดของนักรบบูชิโดที่จะทะยานขึ้นไปต่อสู้กับข้าศึกทั้งสามคนขึ้นเครื่องจนสำเร็จ แล้วชิเด้นทั้งสามเครื่องก็ "แท็กซี่" ไปบนทางรันเวย์ทันที เฮลล์แคทหกเครื่องจิกหัวดิ่งลงมาทันที ราวกับเหยี่ยวลงมาโฉบลูกไก่ ลูกหมู่ของซูกีตะโดนเข้าก่อน ขณะล้อเพิ่งพ้นรันเวย์ไม่ถึงเมตร เครื่องบินเสียหลักหมุนคว้าง เอาปีกฟาดกับพื้นรันเวย์แล้วกระดอนออกไปกระแทกกับพื้นนอกทางวิ่งพร้อมกับเกิดไฟลุกขึ้นมาท่วมเครื่อง ซูกีตะที่เร่งเครื่องมาทางด้านหลังโดนอีกเครื่องหนึ่งกระหน่ำอย่างเต็มที่โดยที่เขาไม่มีทางหลีกเลี่ยง กระสุนเพลิงนัดหนึ่งเจาะเข้าที่ถังน้ำมันชิเด้นเครื่องนั้นระเบิดทันที ควันและไฟกลบบริเวณนั้น มัตสุมาระ ลูกหมู่อีกเครื่องหนึ่งต้องโจนออกจากเครื่องบิน เพราะไม่สามารถฝ่ากองไฟที่ลุกโชติช่วงบนรันเวย์ได้ และรอดชีวิตไปอย่างหวุดหวิด นายเรือตรี โชอิจิ ซูกีตะ พญาอินทรีทรนง จบชีวิตของเขาอย่างกล้าหาญ ถึงแม้ว่าเขาจะตายไปแล้ว แต่ประวัตินักรบของเขายังเป็นที่กล่าวถึงกันอยุ่ ในเหล่านักบินนาวีอยู่ทุกวันนี้ วันนั้นหากเขาหลบเสียไม่พยายามนำเครื่องบินขึ้น เขาย่อมไม่ตายอย่างแน่นอน แต่ความทรนงในศักดิ์ศรีของนักรบที่ไม่ยอมให้ข้าศึกมาท้าทาย เขายอมสู้ทั้งที่รู้ว่าเสียเปรียบ และโดยวิธีรบแล้วไม่มีนักบินคนไหนจะขึ้นบินในขณะนี่ฝูงบินข้าศึกบินอยู่เหนือสนาม เพราะมันมีแต่ "ตายกับตายลูกเดียว" แต่ อินทรี "ซูกีตะ" ทระนง ที่จะขึ้นเพื่อศักดิ์ศรีนักรบซามูไร แต่ ซูกีตะได้ทำ เขาทำเพราะความทระนงในศักดิ์ศรีของเขาเท่านั้น ถึ่งแม้ว่ามัจจุราชจะยืนจังก้าขวางหน้า ซูกีตะไม่เคยหวาดหวั่น เขายอมตายแทนที่จะเป็นฝ่ายหลบและมองดูข้าศึกโจมตีสนามบินของเขาเพียงข้างเดียว 
เรือตรี โชอิจิ ซูกีตะ อินทรีทรนง ผู้ยอมตายดีกว่าเสียศักดิ์ศรีนักรบซามูไร จบ เรื่องราวความกล้าหาญของเรื่อตรี โชอิจิ ซูกีตะ ได้ถูกถ่ายทอดนำมาสร้างเป็นภาพยนต์โดยบริษัท โตโฮ (Toho) ในเรื่อง " Zero" หรือในชื่อภาษาไทยว่า "ซีโร่ บินเพชฆาต" ส่วนความกล้าหาญของเหล่านักบินแห่งฝูงบินที่ 343 คาโนย่าแห่งสนามบินมัตสุยาม่า ก็ได้ถูกสร้างเช่นกันในชื่อเรื่อง "Attach squadron" หรือในชื่อภาษาไทยว่า "ฝูงบินลมกรด" ซึ่งทางร้านได้จัดเป็นของแถมให้กับลูกค้าที่มีอุปการะคุณครับ 
เหตุการณ์สำคัญ 
ช่วงที่เรือตรีโชอิจิ ซูกิตะ เป็นนักบินประจำฝูงบินที่ 204 ( 204 th Kokutai) ในราบวลตะวันออก หมู่เกาะนิวบริเทน ในเดือนเมษายน ปี 1943 ซูกีตะได้ถูกเลือกให้ทำหน้าที่คุ้มกัน ให้กับเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ G4M เบ็ตตี้ที่มี นายพลเรือยามาโมโต้ และคณะโดยสารมา ระหว่างการเดินทางได้ถูกฝูงบินขับไล่แบบ พี 38 ของอเมริกัน 16 เครื่อง ซึ่งดักซุ่มรออยู่เข้าโจมตี หมายสังหารนายพลยามาโมโต้ ซูกีตะได้เข้าทำการสู้รบและสามารถทำลายเครื่องบินพี 38 ได้ 2 ลำ ( ทางอเมริกายืนยัน 1 ลำ) แต่ชัยชนะกลับเป็นเรื่องเศร้า เพราะไม่สามารถคุ้มกันนายพลยามาโมโต้ได้ ซึ่งทำให้เขารู้สึกผิดมาก นี่อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ซูกีตะพยายามออกรบอย่างบ้าบิ่นเพื่อไถ่บาปและกู้เกียรติยศกลับคืนมา โดยการหยิบยื่นความตายให้กับศัตรู จนในที่สุดเขาก็ได้กลายเป็นสุดยอดเสืออากาศของฝูงบินที่ 204 และกองบินนาวีญี่ปุ่น 
เครื่อง A6M2b ประจำตัวซูกีตะ ขณะประจำที่ฝูงบิน 204 ซูกีตะเสียชีวิตในวันที่ 15 เมษายน ปีค.ศ.1945 ขณะพยายามนำเครื่องบินขึ้น ในช่วงเวลาที่สนามบินถูกโจมตี โดยถูกกราดยิงจากเครื่องบินเฮลล์แคท ซึ่งบินโดย Lt Cdr Robert "Doc" Weatherup แห่งฝูงบิน VF-46 โดยในขณะนั้นซูกีตะประจำการอยู่ในฝูงบินที่ 343 ในคูเร 
เครื่อง N1K2-J Shidenkai ประจำตัวซูกีตะ ขณะประจำที่ฝูงบิน 343 http://www.cieldegloire.com/010_sugita_s.php
|