หน้า 2 จาก 2 - การทำเวทเธอร์ริ่ง ด้วยเทคนิค ที่เรียกว่าว๊อสช์ ( Wash )

- การทำเวทเธอร์ริ่ง ด้วยเทคนิคที่เรียกว่าดรายบรัส ( Dry Brush )

- การตกแต่งโมเดลให้สมจริงด้วยสายอากาศและเสาที่ทำจากพลาสติกยืด

- การเก็บงานให้ดูดีด้วยการพ่นเคลียร์กระป๋อง
ระดับ 3 ในระดับนี้จะได้รู้จักกับเทคนิคการทำสีโมเดลด้วยการพ่นสี ด้วยการใช้สีกระป๋อง ซึ่งจำเป็นจะต้องเรียนรู้ถึงเทคนิคดังนี้
- เทคนิคการพ่นสีด้วยสีกระป๋องอย่างถูกวิธี

- เทคนิคการพ่นบังสีด้วยการใช้เทปบังและใช้น้ำยา Mr. Marking Sol
- เทคนิคการใช้เทปกาวในการบังสี

- เทคนิคการทำสีคานูปี้ด้วยการใช้การบังพ่น
ระดับ 4

ในระดับนี้จะเป็นเทคนิคการทำสีโมเดลด้วยการใช้แอร์บรัช ซึ่งแอร์บรัสนี้จะให้งานออกมาดีกว่าการทำสีแบบอื่น ไม่ว่าจะเป็นการทาสีหรือการพ่นสีด้วยสีกระป๋อง แม้ว่าการลงทุนในครั้งแรกจะสูงกว่าแบบอื่นแต่ในระยะยาวแล้วจะคุ้มค่ากว่า เนื่องจากเทียบกันแล้ว แอร์บรัชจะใช้ปริมาณสีน้อยกว่าแบบอื่นมาก เนื่องจากมีการสูญเสียเนื้อสีไปน้อยมาก ยกตัวอย่างเช่นหากเราต้องการทำสีโมเดลรถถังขนาด 1/35 สักคันหนึ่งแล้ว หากเป็นการทาสี เราอาจจะต้องใช้สีทามิย่า 1 ขวดจึงจะทาสีได้หมดทั้งคัน หรืออาจจะต้องใช้สีกระป๋องทามิย่า ครึ่งกระป๋องจึงจะทำสีได้สำเร็จซัก 1 คัน (ปริมาณเยอะกว่าสีแบบขวดหลายเท่า) แต่หากใช้แอร์บรัช เราอาจใช้สีเพียงแค่ 1 ใน 4 ขวดเท่านั้นเอง สาเหตุก็เนื่องจาก ๑. การพ่นสีด้วยแอร์บรัชจะให้เนื้อฟิลม์สีที่บางมากกว่าการทาสีและการพ่นด้วยสีกระป๋องมาก ๒. แอร์บรัชสามารถคุมการกระจายของเม็ดสีได้ดีกว่า สามารถทำให้เม็ดสีพุ่งไปที่ตัวโมเดลได้มีประสิทธิภาพมากกว่าการพ่นด้วยสีกระป๋อง (การพ่นด้วยสีกระป๋องแต่ละครั้ง สีที่พ่นออกมาจะไปอยู่บนตัวโมเดลเพียง 1 ใน 5 ส่วน เท่านั้น ที่เหลืออีก 4 ส่วนจะกระจายไปที่อื่นๆหมด ยิ่งถ้าเป็นโมเดลขนาดเล็กยิ่งแล้วใหญ่ อาจจะเหลือเพียง 1 ใน 10 ส่วนเท่านั้นเอง ) นอกจากนี้ การใช้แอร์บรัชยังมีข้อดีอีกประการ ที่เป็นข้อได้เปรียบเหนือเทคนิคการทำสีแบบอื่น ซึ่งเป็นความฝันอันสูงสุดของบรรดาโมเดลเลอร์ทุกคนนั่นก็คือ สีที่พ่นด้วยแอร์บรัชแห้งเร็วมาก ถ้าเป็นสูตรแล๊คเกอร์ทินเนอร์ จะใช้เวลาไม่ถึง 10 วินาทีก็แห้งแล้ว แต่ถ้าเป็นสูตรอีนาเมล อาจต้องรอซักประมาณ 1 นาที ส่วนสูตรอีมัลชั่น จะอยู่ที่ประมาณ 30 วินาทีเท่านั้น ในขณะที่ถ้าเป็นการทาด้วยพู่กันแล้วเราอาจจะต้องรอให้สีแห้งกันประมาณ 3-6 ชั่วโมง จึงจะทาสีซ้ำได้ ถ้าใครผสมจางหน่อยอาจต้องรอกันถึง 10 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว ส่วนการพ่นด้วยสีกระป๋องนั้นแม้ว่าจะเร็วกว่าการทาด้วยพู่กัน แต่ก็จำเป็นต้องรอกันประมาณ 15-30 นาที จึงจะพ่นต่อได้ แต่ถ้าจะจับต้องกันละก็ควรรอซักประมาณ 1 ชั่วโมงจะดีกว่า ไม่งั้นได้เห็นลายนิ้วมือตัวเองไปอยู่บนโมเดลสุดเลิฟเป็นแน่แท้.. 
ระดับ 5 ระดับนี้จะเริ่มเป็นระดับของมือโปรแล้ว เป็นระดับของโมเดลเลอร์ ที่ค่อนข้างซีเรียสกับความสมจริงของตัวโมเดล ดังนั้นทักษะที่เพิ่มเข้ามาของโมเดลเลอร์ระดับนี้ก็คือ - การตกแต่งโมเดลด้วยชุดแต่งเรซิ่น ( Resin Kit )

- การตกแต่งโมเดลด้วยแผ่น Photo echs หรือที่เรียกกันว่า PE

- การตกแต่งโมเดลด้วยชุดชิ้นส่วนตะกั่ว หรือ White metal
.jpg)
- การตกแต่งโมเดลด้วยเศษวัสดุรอบตัวซึ่งการที่จะตกแต่งโมเดลให้มีความเหมือนจริงได้นั้น โมเดลเลอร์ระดับนี้จำเป็นที่จะต้องรู้จักการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลอ้างอิง , รูปถ่าย ซึ่งในปัจจุบันเป็นยุคของอินเตอร์เน็ต ก็ทำให้สามารถหาข้อมูลได้อย่างง่ายดาย ผิดกับเมื่อก่อนมาก

สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามคัดลอก ดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เขียน
|